วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559

เวสสันดรชาดก


     พระเจ้าสญชัย ทรงครองราชสมบัติเมืองสีพี มีพระมเหสีทรงพระนามว่า พระนางผุสดี ธิดาพระเจ้ากรุงมัททราช พระนางผุสดีนี้ในชาติก่อนๆ ได้เคยถวายแก่นจันทน์หอม เป็นพุทธบูชาและอธิษฐานขอให้ได้เป็นพุทธมารดาพระพุทธเจ้าในกาลอนาคต ครั้นเมื่อนางสิ้นชีวิตก็ได้ไปบังเกิดในเทวโลก เมื่อถึงวาระที่จะต้องจุติมาเกิ อ่านเพิ่มเติม

วิธุรชาดก



      ในเมืองอินทปัตต์ แคว้นกุรุ พระราชาทรง พระนามว่า ธนัญชัย ทรงมีนักปราชญ์ประจำ ราชสำนักชื่อว่า วิธุร วิธุรเป็นผู้มีวาจาฉลาด หลักแหลม เมื่อจะกล่าวถ้อยคำสิ่งใด ก็สามารถ ทำให้ผู้ฟังเกิดความเลื่อมใสครัทธราและ ชื่นชมยินดีในถ้อยคำนั้น ในครั้งนั้น มีพราหมณ์อยู่ คน เคยเป็นเพื่อน สนิทกันมาแต่เก่าก่อน ต่อมาพราหมณ์ทั้งสี่ ได้ออกบวช เป็นฤษีบำเพ็ญพรตอยู่ในป่า หิม อ่านเพิ่มเติม

พรหมนารทชาดก


พระนารทพรหม ผู้บำเพ็ญอุเบกขาบารมี (นารทชาดก)

นิทานชาดก พระนารทพรหม ผู้บำเพ็ญอุเบกขาบารมี (นารทชาดก)ครั้งหนึ่งมีพระโพธิสัตว์นามว่า พระนารท ซึ่งเป็นภพชาติหนึ่งขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีเรื่องว่า มีพระราชาผู้ครองเมืองมิถิลา ผู้ยึดมั่นในทศพิธราชธรรม พระนามว่า อังคติราช ทรงมีพระธิดาพระองค์หนึ่งซึ่งมีพระสิริโฉมงดงามนัก พระนามว่า รุจาราชกุมารี ผู้เป็นที่รักแห่งองค์พระราชา เมื่อถึงคืนแห่งเทศกาลมหรสพชาวเมืองได้ประดับประดาบ้านเรือนของตนอย่างสวยงามทุกเรือน ขณะดวงจันทร์ทรงกลดลอยเด่นอยู่บนนภา พระเจ้าอังคติราชทรงประทับท่ามกลางเหล่าเสนาอำมาตย์ภายในพระ อ่านเพิ่มเติม

จันทกุมารชาดก


   พระจันทกุมาร (จ) เรื่องนี้นับเป็นเรื่องที่ ๗ ในเรื่องพระเจ้าสิบชาติ
    เรื่องมีอยู่ว่าสมัยเมื่อพระเจ้าเอกราชครองราชสมบัติอยู่ในบุปผาดีนคร ท้าวเธอมีมเหสีพระนามว่าโคตมี และมีราชโอรสนามว่า จันทกุมาร มีปุโรหิตชื่อ กัณฑหาลพราหมณ์
    กัณฑหาลพราหมณ์เป็นคนโลภ เมื่อมียศโดยพระเจ้าเอกราชมอบอำนาจให้พิพากษาอรรถคดีต่าง ๆ ก็ชอบกินสินบน เข้าแบบที่มูลบทบรรพกิจสอนเด็กไว้ว่า อ่านเพิ่มเติม

ภูริทัตตชาดก

พระภูริทัต ผู้บำเพ็ญศีลบารมี (ภูริทัตชาดก)

พระองค์ได้ลอบปลงพระชนม์เพื่อแย่งชิงพระราชสมบัติ เช้าวันรุ่งขึ้น

พระองค์ทรงมีรับสั่งให้พระโอรสออกไปให้ห่างไกลจากเมืองพาราณ
สีแห่งนี้จนกว่าพระองค์จะทรงสิ้นพระชนม์ พระโอรสจึงจะสามารถกลับมาสืบทอดราชสมบัติต่อจากพระองค์ได้ ด้วยเกรงว่าเหตุการณ์จะเป็นไปดังที่ทรงเกิดนิมิต
ในพระสุบินของพระองค์ฝ่ายพระโอรสผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งอุปราชาอยู่ ณ อ่านเพิ่มเติม

มโหสถชาดก

นเมืองมิถิลา มีเศรษฐีผู้หนึ่งมีนามว่า สิริวัฒกะ ภรรยาชื่อ นางสุมนาเทวี 

นางสุมนาเทวีมีบุตรชายคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อคลอด ออกมานั้นมีแท่งโอสถอยู่ในมือ

 เศรษฐีสิริวัฒกะเคยเป็นโรค ปวดศีรษะมานาน จึงเอาแท่งยานั้นฝนที่หินบดยา 

แล้วนำมา ทาหน้าผาก อาการปวดศีรษะก็หายขาด ครั้นผู้อื่นที่มีโรคภัย 

ไข้เจ็บมาขอปันยานั้นไปรักษาบ้าง ก็พากันหายจากโรค เป็นที่เลื่องลือไปทั่ว 

เศรษฐีจึงตั้งชื่อบุตรว่า "มโหสถ" เพราะทารกนั้นมีแท่งยาวิเศษ เกิดมากับตัว 

เมื่อมโหสถเติบโตขึ้น ปรากฏว่ามีสติปัญญาเฉลียวฉลาด กว่าเด็กในวัยเดียวกัน

   ครั้งหนึ่งมโหสถเห็นว่า ในเวลาฝนตก ตนและเพื่อนเล่นทั้งหลายต้อง
หลบฝนลำบากลำบนเล่นไม่สนุก จึงขอให้เพื่อนเล่นทุก คนนำเงินมารวมกันเพื่อ 
 อ่านต่อ


เนมิราชชาดก


ระราชาแห่งเมืองมิถิลา ทรงมีพระโอรสนามว่า เนมิกุมาร ผู้จะทรงสืบสมบัติในกรุงมิถิลาต่อไป พระเนมิกุมาร ทรงมีพระทัยฝักใฝ่ในการบำเพ็ญทานมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ทรงรักษาศีลอุโบสถ อย่างเคร่งครัด เมื่อพระบิดาทอดพระเนตรเห็นเส้นพระเกศาหงอก ก็ทรงรำพึงว่า บัดนี้ถึงเวลาที่จะมอบราชสมบัติให้ แก่โอรสแล้ว พระองค์เองก็จะได้เสด็จออกบำเพ็ญเพียรในทางธรรมต่อไป จึงทรงมอบราชสมบัติเมือง มิถิลาให้แก่พระเนมิราชกุมาร ขึ้นครองเป็นพระเจ้าเนมิราช ส่วนพระองค์เองก็เสด็จออกบวช รักษาศีลตราบจนสวรรคต
   เมื่อพระเจ้าเนมิราชครองราชสมบัติ โปรดให้สร้างโรงทาน ริมประตูเมือง 4 แห่ง โรงทานกลางพระนคร 1 แห่ง ทรงบริจาคทานแก่ อ่านต่อ